การดับสลายของดาวฤกษ์
ในที่สุดดาวฤกษ์ทุกดวงก็จะหมดเชื้อเพลิงและดับสลาย
ส่วนใหญ่จะจางหายไปอย่างเงียบ ๆ แต่ดาวฤกษ์ที่มวลมากที่สุด จะทำลายตัวเอง
โดยเกิดการระเบิดขนาดใหญ่สว่างไสวไปทั่วจักรวาล
ดาวฤกษ์ ก็เหมือนกับโลก สร้างแรงโน้มถ่วง ห่อหุ้มแกนกลางที่ร้อนของตนเอง
ดาวฤกษ์ที่มีมวลมากกว่า แกนกลางก็จะมีแรงโน้มถ่วง ความร้อนและความหนาแน่นมากกว่า
การที่ดาวฤกษ์จะดับสลาย ขึ้นอยู่กับว่ามันมีมวลมากหรือไม่
และแกนกลางมีพลังแรงโน้มถ่วงมากหรือไม่
ดาวฤกษ์จะสร้างความร้อนและแสงสว่างด้วยกระบวนการปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น
อะตอมไฮโดรเจนในแกนกลางปะทะกันจนก่อตัวเป็นธาตุฮีเลียม ปล่อยพลังงานออกมา ในดาวฤกษ์ขนาดเล็ก
เมื่อไฮโดรเจนในแกนกลางหมดสิ้นไป แสงสว่างของดาวฤกษ์ก็จะค่อย ๆ จางหายไป แต่ในดาวฤกษ์ที่มีมวลมหาศาล
แกนกลางจะร้อนและหนาแน่นมากจนกระทั่งปฏิกิริยาหลอมเหลวแผ่กระจายออกมา
เปลี่ยนแปลงรูปร่างของดาวฤกษ์
ในที่สุดดาวฤกษ์ที่มีมวลมากที่สุด ก็ถูกแรงโน้มถ่วงของตนเองครอบงำ
บดขยี้ตัวมันเองอย่างรุนแรงจนกระทั่งยุบตัวลงเป็นรูเล็ก จนเกิดเป็นหลุมดำ (black hole)
|
น้ำหนักประมาณหนึ่งช้อนชาของวัตถุจากใจกลางดาวฤกษ์ที่เป็นนิวตรอน มีถึง 5 พันล้านตัน
น้ำหนัก 1 ช้อนชาของวัตถุจากดาวยักษ์แดง
มีน้ำหนักน้อยกว่าเมล็ดเกลือ
4 วิธีที่ดาวฤกษ์จะดับ
ดาวฤกษ์สามารถดับได้ 4 วิธี แตกต่างกัน ยกตัวอย่าง
ดวงอาทิตย์ของเรา จะหมุนโคจรอยู่ตรงกลาง แต่ยังไม่ดับ ดวงอาทิตย์ยังมีเชื้อเพลิงเพียงพอที่จะส่งแสงได้เป็นเวลาอีก
5 พันล้านปี ในขณะที่ดาวฤกษ์ที่ใหญ่กว่าจะดับ
ดาวฤกษ์เหล่านั้นก็เปลี่ยนก๊าซไฮโดรเจนไปเป็นธาตุเคมีที่หนักกว่า เช่น คาร์บอน
และออกซิเจน ซึ่งต่อไปก็จะกลับกลายเป็นดาวฤกษ์ดวงใหม่และดาวเคราะห์ อะตอมทั้งหมดในร่างกายของเราก็ถูกสร้างขึ้นมาทำนองเดียวกัน (ดูภาพด่านล่าง)
|
ดาวฤกษ์ที่มีความเสถียรภาพ
|
||
ดาวฤกษ์ขนาดเล็ก
ดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของมวลดวงอาทิตย์จะจางหายไปช้ามาก
ทันทีที่ก๊าซไฮโดรเจนที่อยู่ในใจกลางหมดสิ้นไป
ดาวฤกษ์ก็จะเริ่มจะคลายไฮโดรเจนออกไปในชั้นบรรยากาศ นอกจากดาวฤกษ์ยังไม่ได้สร้างแรงโน้มถ่วงพอที่จะใช้ธาตุอื่น
ๆ เป็นเชื้อเพลิง ยังหดตัวไปอย่างช้า ๆ กลายเป็นดาวแคระดำ (black dwarf) ดาวแคระดำนี้จะมีอายุยืนยาวนานกว่าอายุของจักรวาล
คือมีอายุถึงล้านล้านปี
|
โลกอยู่ห่างจากหลุมดำ (Black Hole) ที่อยู่ใกล้ที่สุด 1,000 ปีแสง
ดาวฤกษ์ขนาดกลาง
เมื่อดาวฤกษ์ เช่น ดวงอาทิตย์
ได้ใช้ไฮโดรเจนในแกนกลางหมดไป ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นก็จะกระจายออกมาจากแกนกลาง
ทำให้ดาวฤกษ์ขยายตัวเป็นดาวยักษ์แดง (red giant)
แกนกลางก็ยุบลงจนกระทั่งเกิดความร้อนและความหนาแน่นพอที่จะหลอมธาตุฮีเลียม
แต่ในที่สุด ก็จะเหลือธาตุฮีเลียมน้อยมาก
จนกลายเป็นดาวแคระขาว (white dwarf)
และชั้นนอกก็จะกระจายไปสู่อวกาศ กลายเป็นกลุ่มซากดาวฤกษ์
|
1 ดาวยักษ์แดง
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นแพร่กระจายไปยังชั้นรอบแกนกลาง
ทำให้ร้อนขึ้นและทำให้ดาวฤกษ์ขยาย ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้เคียงอาจจะถูกกลืนหายไปกับดาวยักษ์ที่กำลังเติบโต
2 เนบิวลาดาวเคราะห์ (Planetary nebula)
ชันนอกของดาวฤกษ์แตกกระจายไปสู่อวกาศกลายเป็นกลุ่มเศษซากดาวฤกษ์เรืองแสง
คือ เนบิวลาดาวเคราะห์ ในที่สุด วัตถุในกลุ่มควันนี้ก็จะกลับกลายเป็นดาวฤกษ์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
3 ดาวแคระขาว (White dwarf)
ซากเหล่านั้นทั้งหมด คือ แกนกลางดาวฤกษ์ที่ดับ ได้แก่
ดาวแคระขาว
ดาวฤกษ์ชนิดนี้มีขนาดเท่ากับโลก จะค่อย ๆ จางหายและเย็นลง
ดับเป็นดาวแคระดำ
|
ดาวฤกษ์ที่มีมวลมาก (Massive stars)
ดาวฤกษ์ที่มีมวลมากถึงแปดเท่าของดวงอาทิตย์ของเราจะดับสลายด้วยวิธีที่แปลกประหลาดและรุนแรง
ความร้อนและความกดดันภายในแกนกลางมีปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นมากจนกระทั่งไม่เพียงแต่จะหลอมเหลวอะตอมของธาตุฮีเลียมเข้าด้วยกันเป็นธาตุฮีเลียมได้เท่านั้น
แต่ยังสามารถหลอมเหลวธาตุฮีเลียมและอะตอมขนานใหญ่กว่าสร้างเป็นธาตุต่าง ๆ เช่น
คาร์บอน หรือ ออกซิเจน เมื่อเกิดเหตุนี้ขึ้น ดาวฤกษ์จึงขยายตัวใหญ่มากที่สุด
จนเป็น supergiant (ดาวฤกษ์ขนาดยักษ์ที่มีความสว่างกว่าดวงอาทิตย์ 1,000 เท่า)
|
1 ดาวยักษ์ใหญ่แดง (Red
supergiant)
ดาวฤกษ์จะวิวัฒนาการไปเป็นดาวยักษ์ใหญ่ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น
เกิดขึ้นภายในแกนกลาง บีบอะตอมเข้าด้วยกันก่อตัวเป็นธาตุมากขึ้น ๆ
จนกระทั่งแกนกลางของดาวฤกษ์กลายเป็นธาตุเหล็ก
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ไม่นานนัก
แกนกลางจะสร้างแรงกดดันภายนอกเพียงพอที่จะต้านทานพลังบดขยี้ของแรงโน้มถ่วงได้
และในทันทีทันใด ดาวฤกษ์ทั้งหมดจะยุบตัวลง ทำให้เกิดการระเบิดครั้งร้ายแรง คือ
ซูเปอร์โนวา
2 มหานวดารา
หรือ ซูเปอร์โนวา (Supernova)
คือการระเบิดตัวเองที่มีแสงสว่างมหาศาลยิ่งกว่าดวงอาทิตย์พันล้านดวง ชั้นนอกจะระเบิดไปสู่อวกาศ
แกนกลางจะยุบเข้าหาตัวมันเอง แกนกลางที่เล็กกว่าจะกลายเป็นดาวนิวตรอน
แต่แกนกลางที่มีมวลมากจะไม่หยุดการยุบตัว
มันจะยุบตัวจนเล็กเล็กกว่าอะตอมในตัวมันถึงพ้นล้านเท่า และกลายกลายเป็นหลุมดำ
|
ดาวนิวตอน
(Neutron
star)
ดาวนิวตรอน หนักกว่าดวงอาทิตย์ถึง 3 เท่า
มีความหนาแน่นจนคณนาไม่ได้
เป็นดาวฤกษ์ที่หมุนเร็วมาก
|
หลุมดำ (Black hole)
แรงโน้มถ่วงที่ใกล้กับหลุมดำ มีความรุนแรงมากจนกระทั่งไม่มีอะไรที่สามารถหลุดพ้นจากมันได้
ไม่เว้นแม้แต่แสง สิ่งที่ตกไปภายในหลุมดำ จะถูกฉีกขาดออกจากกันโดยแรงโน้มถ่วงและบดจนเป็นจุดหนาแน่นไม่มีที่สิ้นสุด
|
No comments:
Post a Comment