กำเนิดดาวฤกษ์


กำเนิดดาวฤกษ์
ดาวฤกษ์ได้ก่อกำเนิดทั่วจักรวาลมากที่สุดตลอดการดำรงอยู่ของจักรวาล  ที่ใด มีกลุ่มหมอกควันขนาดใหญ่เกิดขึ้น ที่นั้น ก็จะมีดาวฤกษ์หลายพันดวงเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน

กลุ่มหมอกควันที่ให้กำเนิดดาวฤกษ์ ก็เย็นลงและมีความหนาแน่น ตลอดจนมีก๊าซไฮโดรเจนเป็นส่วนใหญ่ ดาวฤกษ์ที่เกิดใหม่ ๆ เป็นลูกไฟร้อนขนาดมหึมา หมุนเคว้งคว้างอยู่  มีก๊าซเรืองแสงคือก๊าซไฮโดรเจนเป็นส่วนมาก ก๊าซฮีเลียมและธาตุอื่น ๆ เล็กน้อย ส่วนมากวัตถุเหล่านี้จะเกาะกันเป็นก้อนหนาแน่นในใจกลางดาวฤกษ์  ซึ่ง ณ ที่นั่นเกิดมีปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นปล่อยพลังงานออกมาเป็นรูปความร้อนและดวงไฟ
ดาวฤกษ์ดวงใหญ่ที่สุดในท้องฟ้าตอนกลางคืน ใหญ่พอที่จะกลืนดวงอาทิตย์ของเราหลายพันล้านเท่า
กระบวนการเกิดขึ้นของดาวฤกษ์
กระบวนการก่อตัวของดาวฤกษ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเมฆหมอกเกิดความเปลี่ยนแปลงและระเบิดออกเป็นเศษเล็กเศษน้อย  วัตถุที่หนาแน่นกว่าก็ดึงดูดวัตถุเศษเล็กเศษน้อยเข้าเป็นกลุ่มก้อน และค่อย ๆ ก่อตัวเป็นรูปทรงกลมพร้อมกับหดตัวเข้า  ต่อมา ดาวฤกษ์ก่อนเกิด (protostar) ซึ่งจะกลายเป็นดาวฤกษ์ ก็หดตัวไปเรื่อย ๆ  แกนกลางก็หนาแน่นและร้อยแรง  ในที่สุด ความกดดันและอุณหภูมิก็สูงขึ้นจนกระทั่งเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น และดาวฤกษ์ก็เริ่มส่องแสง

กำเนิดดาวฤกษ์

1.  กลุ่มเมฆหมอกระหว่างดาว (Interstellar cloud)

ดาวฤกษ์กำเนิดขึ้นภายในกลุ่มก๊าซและธุลีอันมหาศาล เย็น และหนาแน่  กระบวนการก่อกำเนิดดาวฤกษ์อาจจะระเบิดกระจายออกมา  ถ้ามีบางสิ่งบางอย่างไปรบกวนกลุ่มควันเหล่านั้น เช่น การชนกับกลุ่มควันอีกกลุ่มหนึ่งหรือคลื่นกระแทกจากการระเบิดของ ซูเปอร์โนวา (ดาวฤกษ์ที่สว่างกว่าดวงอาทิตย์)

การแตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
ระยะนี้กลุ่มควันเกิดการเปลี่ยนแปลง ระเบิดเป็นเศษเล็กเศษน้อย มีขนาดและมวลต่าง ๆ กัน  กลุ่มควันที่เป็นเศษเล็กเศษน้อยเหล่านี้ที่มีมวลมากและหนาแน่น จะดึงดูกันเกาะเป็น กลุ่มที่หนาแน่นมากขึ้นตามลำดับ  ในที่สุด กลุ่มควันเศษเล็กเศษน้อยเหล่านี้ก็จะกลายเป็นดาวฤกษ์ก่อนเกิด (protostars)

3  ดาวฤกษ์ก่อนเกิด (Protostar)
ดาวฤกษ์ก่อนเกิดก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้น แรงโน้มถ่วงก็จะดึงวัตถุเข้าไปสู่แกนกลางของมัน  มีความหนาแน่น ความกดดันและอุณหภูมิมากขึ้น  กลุ่มควันเหล่านี้ที่มีอุณหภูมิและความกดดันมากขึ้นก็จะวิวัฒนาการเป็นดาวฤกษ์ก่อนเกิด (คือวัตถุขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นจากการรวมกลุ่มกันของแก๊สในเมฆโมเลกุลขนาดยักษ์ซึ่งอยู่ในสสารระหว่างดาว)

ไดอะแกรมดาวฤกษ์


ประเภทของดาวฤกษ์
ดาวฤกษ์เริ่มส่องแสงเมื่อปฏิกิริยานิวเคลียร์ในแกนกลางของมันแปลงไฮโดรเจนเป็นฮีเลียมและปล่อยพลังงานออกมา แล้วเรียกกันว่าดาวลำดับหลัก (main sequence star) ดาวลำดับหลักไม่ได้เหมือนกันทุกดวง แต่แตกตากกันในด้านขนาด อุณหภูมิ สี แสงสว่าง และมีสสารจำนวนมาก เมื่อดาวฤกษ์เริ่มหมดเชื้อเพลิงและใกล้จะดับสลาย จะหยุดเป็นดาวลำดับหลัก และอาจจะขยายตัวแล้วกลายเป็นดาวยักษ์แดงหรือหดตัวเป็นดาวแคระขาว
การจำแนกดาวฤกษ์
ไดอะแกรมของแฮร์ทสชปรุง-รัสเซลล์ (Hertzsprung–Russell diagram) เป็นกราฟที่มีชื่อเสียงที่นักดาราศาสตร์ใช้ในการจำแนกดาวฤกษ์ กราฟวางแผนผังความสว่างกับอุณหภูมิและเผยให้เห็นว่ามีการจัดกลุ่มดาวฤกษ์อย่างชัดเจน เช่น ดาวยักษ์แดง (ดาวที่กำลังจะดับ) และดาวลำดับหลัก (ดาวสามัญ) นักดาราศาสตร์ยังจำแนกดาวด้วยสีซึ่งเชื่อมโยงกับอุณหภูมิของดาวเหล้านั้น ดาวที่ยังร้อนจะมีสีฟ้า ดาวที่เย็นจะมีสีส้มหรือสีแดง 

กำเนิดดาวฤกษ์

4  จุดที่หมุนเป็นวงกลม
มวลที่เพิ่มขึ้นที่จุดศูนย์สร้างแรงโน้มถ่วง ดึงดูดก๊าซและธุลีเป็นอันมากเข้าไปภายใน มีวัตถุเล็กน้อยคล้ายกับน้ำไหลระบายออกมา ถูกดูดเข้าไปในดาวฤกษ์หมุนเป็นวงกลมอยู่รอบ ๆ  ลมที่มีกำลังมากก็วิวัฒนาการขึ้นมา พัดเอากลุ่มก๊าซพวยพุ่งออกมาจากจุดศูนย์กลาง
เกิดเป็นดาวฤกษ์
ใจกลางของดาวฤกษ์ก่อนเกิดถูกแรงโน้มถึงบีบอัด ก็ร้อนและหนาแน่นมากขึ้นจนกระทั่งเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น และดาวฤกษ์ก็เริ่มส่องแสง  ใจกลางที่เรืองแสงก็ทำให้เกิดความกดดันออกมาภายนอก ซึ่งมีความสมดูลกับการดึงดูดของแรงโน้มภายใน ทำให้ดาวฤกษ์เกิดเสถียรภาพ ต่อมาก็เป็นดาวฤกษ์ดวงสำคัญตามลำดับ
6  ดาวเคราะห์ก่อตัวขึ้น
วัตถุที่เกิดจากกลุ่มควันก๊าซไม่ได้เกิดเป็นดาวฤกษ์เสียทั้งหมด วัตถุที่หลงเหลือจากจุดที่หมุนเป็นวงกลมของก๊าซและธุลีซึ่งอยู่รอบ ๆ ดาวฤกษ์ เป็นเศษเล็กเศษน้อย อาจะสูญหายไปในอวกาศ หรืออาจจะเกาะกลุ่มก้อนเกิดเป็นโลก พระจันทร์ และดาวหาง ตลอดจนดาวเคราะห์




เนบิวลา กำเนิดดาวฤกษ์ (Starbirth nebulas – ผู้รู้แนะนำด้วยครับ ขอบพระคุณมาก)
กลุ่มก๊าซและธุลีในอวกาศ เรียกว่า เนบิวลา  ก๊าซและธุลีจำนวนมากในเนบิลา คือ เศษซากจากดาวฤกษ์เก่าที่ระเบิด ในขณะที่วัตถุเหล่านั้นหลุดออกมาจากเปลวเพลิง  เป็นเวลามากกว่าหลายล้านปี วัตถุนี้ก็กลับกลายไปเป็นดาวฤกษ์ดวงใหม่ เนบิวลา กำเนิดดาวฤกษ์จัดอยู่ในหมู่วัตถุที่สวยงามมากที่สุดในอวกาศ กลุ่มควันที่เป็นสีเปล่งประกายออกมาจากข้างในมีแสงสีฟ้าของดาวเกิดใหม่
เนบิวลานายพราน (Orion Nebula)
เนบิวลานายพรานเป็นย่านกำเนิดดาวฤกษ์มวลมากที่อยู่ใกล้กับโลกมากที่สุดแห่งหนึ่ง  ในท้องฟ้าตอนกลางคืน จะมองเห็นลาง ๆ ตรงบริเวณที่เป็นดาบของนายพราน  ความจริงแล้ว มันเป็นกลุ่มก๊าซและธุลีที่ใหญ่กว่าระบบสุริยะหลายพันเท่า


กระจุกดาว (Star clusters)

กระจุกดาว (Star clusters)
ดาวฤกษ์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยลำพัง เกิดขึ้นเป็นกลุ่มก้อนจากกลุ่มวัตถุเมฆหมอกอันเดียวกันในเวลาเกือบเป็นเวลาเดียวกัน ในที่สุด กลุ่มดาวฤกษ์จะลอยออกจากกันและอยู่ตามลำพัง ในอวกาศ หรือมีสหายสนิทดวงเดียวหรือสองดวง  ดวงอาทิตย์ของเรา ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้ชิดเราที่สุด ก็อยู่โดยลำพัง ดาวฤกษ์ในท้องฟ้าตอนกลางคืนประมาณเศษหนึ่งส่วนสาม จะอยู่เป็นคู่ เกาะกลุ่มกันด้วยแรงโน้มถ่วง
กระจุกดาวลูกไก่ (Pleiades cluster)
ดาวฤกษ์ประมาณ 5,000 ดวง ที่เกาะกลุ่มกันเป็นกระจุกดาวลูกไก่ เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเพียงปริมาณเล็กน้อย (เห็นได้ประมาณ 7 ดวง) เวลาประมาณอีก 250 ล้านปี ดาวฤกษ์เหล่านี้ก็จะกระจายออกจากกันและกลุ่มดาวเหล่านั้นก็จะมีอายุอยู่ได้ไม่นาน

No comments:

ที่มา:
1. DK Smithsonian, Knowledge Encyclopedea, First American Edition, 2013 Published in the United States.
2. Wikipedia, The Free Encyclopedia