ดวงจันทร์ (The Moon)
ดวงจันทร์เป็นเพื่อนบ้านในอวกาศที่ใกล้เคียงที่สุดของโลกและ
มองดูขนาดใหญ่กว่าวัตถุอื่น ๆ ในท้องฟ้ายามค่ำคืน
พื้นผิวพรุนของมันอาจจะหนาวและไม่มีชีวิตชีวา
แต่ลึกลงไปด้านในดวงจันทร์เป็นลูกเหล็กขนาดยักษ์สีขาวร้อน
โลกและดวงจันทร์อยู่ด้วยในอวกาศมาตั้งแต่ดวงจันทร์ก่อตัวขึ้นจากการชนกันของจักรวาล
ดวงจันทร์โคจรรอบโลกของเรา หันหน้ามาทางโลกเราด้านเดียวตลอดเวลา
ในขณะที่เราจ้องมองบนพื้นผิวของดวงจันทร์ที่ถูกแสงอาทิตย์
เราจะเห็นภูมิทัศน์ของดวงจันทร์แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ 3.5
พันล้านปีที่ผ่านมา (3,500,000,000 ปี) ย้อนไปเมื่อดวงจันทร์ยังเกิดขึ้นใหม่
มันถูกดาวเคราะห์ชนแล้วชนเล่า
เป็นเวลาหลายล้านปีที่ดาวเคราะห์กระหน่ำชนพื้นผิวจนเกิดเป็นปล่องภูเขาไฟ
ครั้นแล้ว วัตถุที่ใหญ่ที่สุดในปล่องภูเขาไฟเหล่านี้ก็ไหลไปกับลาวาภูเขาไฟ
เกิดเป็นพื้นที่ราบที่มืดทึบมีลักษณะเหมือนทะเล
ชั้นของดวงจันทร์
ดวงจันทร์ก็เหมือนกับโลกประกอบไปด้วยชั้นต่าง
ๆ แยกออกจากกันมานานแล้ว ในครั้งที่ส่วนประกอบภายในถูกหลอมเหลว
แร่ธาตุที่มีน้ำหนักเบาจะลอยขึ้นไปด้านบนและโลหะหนักจะจมลงไปที่ใจกลาง ชั้นนอกสุดเป็นเปลือกหินบาง
ๆ เหมือนกับหินบนโลก
ลึกลงไปใจกลางดวงจันทร์
จะร้อนกว่าบนพื้นผิว ส่วนล่างจะถูกหลอมเหลวเป็นบางส่วน ในใจกลางของดวงจันทร์จะเป็นแกนเหล็ก ร้อนประมาณ 2,600
° F (1,400 ° C) จากพลังงานธาตุกัมมันตรังสี นักวิทยาศาสตร์คิดว่า
แกนด้านนอกถูกหลอมละลาย แต่แกนด้านในถูกแรงดันของหินที่อยู่รอบ ๆ บีบเข้าจนเป็นของแข็ง
หลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์
หลุมอุกกาบาตมีอยู่ทั่วทุกมุมบนดวงจันทร์ กว้างประมาณ 2 – 3
ไมล์ เป็นรูโพรงรูปร่างคล้ายชาม เรียงรายไปถึงที่ราบขั้วใต้-Aitken (South
Pole–Aitken Basin) อันกว้างใหญ่ไพศาล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1,600 ไมล์ (2,500 กิโลเมตร) มีหลุมอุกกาบาตจำนวนมาก
เช่น อีราโทสธีนีส (Eratosthenes) (ดูภาพ) มีเนินเขาเป็นศูนย์กลางซึ่งเกิดขึ้นเป็นพื้นดินที่ดีดตัวขึ้นหลังจากการโจมตีของดาวเคราะห์น้อย
|
มนุษย์บนดวงจันทร์
นักบินอวกาศลงจอดบนดวงจันทร์ 6 ครั้ง ในช่วงโครงการอพอลโลของนาซา
นักบินอวกาศได้พบโลกแห่งพื้นที่ราบเป็นฝุ่นละอองสีเทาและเนินเขาเป็นระลอกภายใต้ท้องฟ้าสีดำสนิท
ในภาพนี้ หัวหน้านักบินอวกาศกลับไปที่ยานซึ่งจอดอยู่ใกล้ภูเขาไฟ
Camelot
ที่เขาได้เก็บตัวอย่างก้อนหิน
ก้อนหินขนาดใหญ่ที่พุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟในขณะที่ดวงจันทร์ก่อตัวขึ้น
|
หุบเหวลึก Hadley Rille
หุบเขาลึก ชื่อ Hadley Rille ตัดผ่านทุ่งราบที่ขอบทะเลแห่งฝนของดวงจันทร์ คดเคี้ยวกว่า 60 ไมล์ (100
กิโลเมตร) วิธีการที่มันเกิดขึ้นยังเป็นสิ่งลึกลับ แต่มันอาจจะเป็นช่องทางลาวาในสมัยโบราณ
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) นักบินอวกาศอพอลโลขับยานอวกาศลงไปที่ขอบ
Hadley Rille เพื่อถ่ายรูปและศึกษาข้อมูล
|
ดวงจันทร์เกิดขึ้นได้อย่างไร
นักวิทยาศาสตร์คิดว่าดวงจันทร์เกิดขึ้นเนื่องมาจากการปะทะกันระหว่างโลกและดาวเคราะห์
เมื่อ 4.5
พันล้านปีที่ผ่านมา เศษหินถูกแรงโน้มถ่วงดึงดูดเข้าด้วยกันและกลายเป็นดวงจันทร์
|
ลักษณะของดวงจันทร์ที่ปรากฏในช่วงเวลาต่างๆ กัน
ขณะที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลก
มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างด้านที่ถูกแสงอาทิตย์ รูปลักษณ์ต่าง ๆ ที่เราเห็น คือ
ปรากฏการณ์ข้างขึ้น-ข้างแรม กินเวลา
29.5 วัน (ข้างขึ้น 15 ข้าแรม 14.5)
|
ด้านไกลของดวงจันทร์
ดวงจันทร์หันด้านเดียวเข้าหาโลกตลอดเวลา
ด้านที่พวกเราไม่เคยเห็น คือ ด้านไกล ที่มนุษย์เห็นได้ด้วยยานอวกาศ
มีเปลือกหนาและพื้นผิวพรุนกว่าด้านใกล้ แผนที่รูปแท่ง (ดูภาพ) แสดงถึงบริเวณพื้นที่สูงและต่ำของพื้นดินบนดวงจันทร์
|
||
มูลโดยรวมของดวงจันทร์
เส้นผ่าศูนย์กลาง.......................................................................................2,159 ไมล์ (3,474 กิโลเมตร)
อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ย
................................................................................
- 63 °F (-53 °C)
ความยาวของวันจันทรคติ
.......................................................................... 27
วันโลก
ใช้เวลาในการโคจรรอบโลก
....................................................................... 27
วันโลก
แรงโน้มถ่วง (โลก = 1) ............................................................................
0.17
ข้อสังเกต:
เราอาจจะบินไปถึงดวงจันทร์ โดยใช้เวลา 18 วัน ด้วยความเร็วของเครื่องบินจัมโบเจ็ท ทุก ๆ ปี ดวงจันทร์จะลอยออกห่างโลก ประมาณ 1.48 นิ้ว (3.78 เซนติเมตร)
มีมนุษย์ จำนวน 12 คน ที่ไปเหยียบบนดวงจันทร์
|
![]() |
ข้างขึ้น/ข้างแรม |
ภาพจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
No comments:
Post a Comment